
รวมบ้านหลากหลายสไตล์ บ้านสวย ๆ มีความสำคัญอย่างมากต่อการอยู่อาศัยแน่นอนว่าเมื่อมีที่ดินอยู่ในมือไม่ว่าจะหลังจากซื้อที่ดินมาได้ หรือได้ที่ดินมรดก การจะสร้างบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ไม่ใช่แค่หาแบบบ้านสวย ๆ ได้ก็พอ เพราะบ้านนี้จะอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน ด้วยต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ระยะเวลาในการปลูกสร้าง และมีขั้นตอนที่ต้องคำนึงถึงหลายเรื่อง ซึ่งหากเราเลือกแบบบ้านผิด ไม่ได้มาตรฐาน นั่นหมายถึง ความไม่ปลอดภัยของผู้ที่อยู่อาศัย ดังนั้นการเลือกแบบบ้านสวย ๆ จึงมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะแบบแปลนบ้าน และแบบพิมพ์เขียว จำเป็นต้องมีลายเซ็นวิศวกรและสถาปนิกผู้ออกแบบ ก่อนยื่นขอสร้างบ้าน รวมทั้งต้องรู้เกี่ยวกับกฎหมายด้านโยธาธิการและผังเมือง และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับการขุดดินและถมดิน
เลือกแบบบ้านสวย ๆ ที่ชอบ สไตล์ที่ใช่
แบบบ้านสวย ๆ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แล้วบ้านแบบไหนจะใช่ตัวเรามากที่สุด การเลือกสไตล์ของแบบบ้านขึ้นอยู่กับความชื่นชอบและรูปแบบการใช้งานของแต่ละคน เพราะแบบบ้านสวย ๆ ของแต่ละคนนั้นต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น
– แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น
เป็นทีได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยรูปแบบความทันสมัย จุดเด่นของแบบบ้านสไตล์นี้ คือเน้นความเรียบง่ายแต่ดูดี มีความทันสมัย มีดีไซน์ และไม่จำกัดวัสดุที่ใช้ว่าจะเป็นแบบไหน
– แบบบ้านสไตล์ลอฟท์
แบบบ้านสไตล์ลอฟท์ แม้จะมีความใกล้เคียงกับแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น แต่แบบสไตล์นี้จะเน้นความดิบ โชว์โครงสร้างของอาคาร และเป็นงานที่มีความพิถีพิถันในเรื่องของรายละเอียดของชิ้นงาน
เลือกแบบบ้านสำเร็จรูป-บ้านน็อคดาวน์
สำหรับใครที่ไม่อยากยุ่งยากกับการก่อสร้างบ้าน แบบบ้านสำเร็จรูปนอกจากจะสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังเป็นตัวเลือกของแบบบ้านสวย ๆ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากสามารถควบคุมองค์ประกอบต่าง ๆ ตามแบบที่ต้องการ สะดวก รวดเร็ว ใช้เวลาน้อย แต่ข้อเสียคือไม่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบตามความต้องการได้
เลือกแบบบ้านสวย ๆ ตามหลักฮวงจุ้ย
การเลือกแบบบ้านตามหลักฮวงจุ้ยจะเป็นการดูรายละเอียด การจัดวางรูปแบบของแปลนบ้านที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย ตำแหน่งในการจัดวาง ตกแต่ง ซึ่งล้วนมีผลต่อหลักของฮวงจุ้ย บางคนอาจจะมองว่าเป็นเพียงความเชื่อ แต่จริง ๆแล้ว ฮวงจุ้ยเป็นหลักทางวิทยาศาสตร์ที่ให้ความสำคัญกับสภาวะแวดล้อมของการอยู่อาศัยเป็นการปรับสมดุลของธรรมชาติ มาจากคำว่า ลม ฟ้า (ฮวง) และ ดิน น้ำ (จุ้ย)
บ้านทรงไทยกับวัสดุและหลังคาทรงจั่วที่ระบายความร้อนได้ดี
หลายคนกำลังตั้งข้อสงสัยว่าทำไมบ้านทรงไทยถึงเป็นแบบบ้านที่เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทยที่มีอากาศร้อนจัดตลอดทั้งปี ทั้งนี้เองอันดับแรกเลยต้องบอกว่าแบบบ้านทรงไทยทั่วไปนั้นนิยมใช้วัสดุหลักในการประกอบบ้านเป็นไม้ ซึ่งสามารถคลายความร้อนได้ดีกว่าวัสดุที่ทำมาจากคอนกรีตที่มีคุณสมบัติอมความร้อนสูงกว่าวัสดุประเภทไม้
ดังนั้น เมื่ออากาศร้อนจัดมาก ๆ พื้นไม้จะคลายความร้อนและเย็นตัวกว่าวัสดุอื่น ๆ ทำให้อุณหภูมิในบ้านเย็นตัวไปด้วย รวมไปถึงเรื่องโครงสร้างหลังคาทรงจั่วของแบบบ้านทรงไทยที่สูงกว่าแบบบบ้านอื่น ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ช่วยให้บ้านทรงไทยนั้นรับมือกับความร้อนได้ ด้วยพื้นที่โปร่งที่มีพื้นจรดเพดานที่สูง อย่างน้อย 35 องศาขึ้นไปตามสเปคของแบบบ้านทรงไทย จะช่วยให้บ้านสามารถกักเก็บมวลอากาศไว้ในบ้านได้และยังสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี
นอกจากนั้นที่ความสูงดังกล่าวหลังคาทรงจั่วของบ้านทรงไทยยังเป็นเสมือนฉนวนกันความร้อน ในระยะห่างของผู้อาศํยกับหลังคาที่ไกลกันพอสมควรก็แทบไม่รู้สึกถึงไอร้อน ยิ่งถ้าหากใครที่ปลูกบ้านทรงไทยและติดตั้งฉนวนกันความร้อน หรือกระเบื้องหลังคาแบบสะท้อนความร้อนเข้าไปอีกรับรองว่าต่อให้ไม่เปิดแอร์ก็ยังไม่รู้สึกถึงรังสีความร้อน
ข้อดีที่เห็นได้ชัด ๆ นอกจากเรื่องความเย็นสบายภายในบ้านทรงไทยแล้วก็คือการประหยัดพลังงานนั่นเอง หากใครที่เคยไปสัมผัสกับบ้านทรงไทยก็จะคลับคล้ายคลับคลาว่าบ้านทรงไทยหลายๆ บ้านนั้นไม่ค่อยนิยมเปิดแอร์เท่าไหร่ นั่นก็เพราะข้อดีเหล่านี้ของบ้านทรงไทยนั่นเอง ออกแบบบริเวณบ้าน
แบบบ้านทรงไทย ป้องกันน้ำท่วมและสัตว์ร้ายที่มาในช่วงหน้าฝน
ในแง่ของบ้านทรงไทยสิ่งที่น่าเป็นห่วงในฤดูฝนมากที่สุดคือเรื่องของโครงสร้างวัสดุส่วนใหญ่ที่เป็นไม้ ซึ่งปัญหาจะมาในรูปแบบของความชื้นที่อาจทำให้ไม้บวมได้ แต่หากบ้านไหนเลือกใช้ไม้จริงประเภทไม้สัก ไม้แดง ไม้มะค่า ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความแข็งแรง ทนทาน รับมือได้ทุกสภาพอากาศเลย
แต่ทั้งนี้นอกจากเรื่องโครงสร้างวัสดุดังกล่าวสิ่งที่เป็นจุดเด่นของบ้านทรงไทยและสามารถปกป้องทุกคนในครอบครัวให้รอดพ้นจากภัยพิบัติได้ก็คือใต้ถุนบ้านที่ยกขึ้นสูง เรียกได้ว่าบ้านทรงไทยบางหลังมีโครงสร้างใต้ถุนบ้านสูงกว่า 2 เมตรด้วยซ้ำไป
โดยเอกลักษณ์ของใต้ถุนบ้านนั้นถือเป็นสิ่งที่คู่กับบ้านทรงไทยมาช้านาน จุดประสงค์หลักเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในบ้าน จากอากาศที่ถ่ายเทสะดวกเหมือนเป็นที่กักเก็บมวลอากาศเอาไว้
แต่ด้วยความสูงของใต้ถุนบ้าน อีกหนึ่งข้อที่ถือเป็นข้อดีก็คือเมื่อเกิดน้ำท่วมขังข้าวของภายในบ้านก็จะไม่เสียหาย และทำให้ทุกชีวิตภายในบ้านสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายภายในบ้าน นอกจากนั้นยังปลอดภัยจากอันตรายจากสัตว์ที่มากับน้ำด้วย
ใครที่โครงสร้างบ้านไม่มีใต้ถุนบ้านก็ต้องหาวิธีรับมือกับสัตว์ร้ายเหล่านี้ แต่สำหรับบ้านทรงไทย หากเกิดน้ำท่วมขังจริงเพียงปิดประตูและหน้าต่างบ้านให้มิดชิดก็ไม่ต้องกลัวสัตว์ร้ายเข้ามาในบ้านเลย ไม่ว่าจะเป็นแมลง หรือ สัตว์มีพิษ เพราะด้วยความสูงระดับที่น้ำไม่สามารถเข้าถึงตัวบ้านจะทำให้สัตว์ร้ายไม่มีช่องทางที่จะเข้ามาในตัวบ้านได้เลย
แบบบ้านไม้ชั้นเดียวสไตล์บ้านในสวนสวย
เริ่มต้นกันด้วยแบบบ้านไม้เล็ก ๆ สไตล์บ้านในสวน รูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้าขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่มาก เน้นพื้นที่ใช้สอยด้านนอกตัวบ้าน ซึ่งแบบบ้านไม้สไตล์นี้จะเหมาะกับคนที่รักธรรมชาติ และต้องการให้บ้านอยู่ท่ามกลางวิวสวย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แบบบ้านไม้สไตล์นี้มักจะเป็นที่ถูกใจของคนต่างจังหวัดที่ประกอบอาชีพทำสวนทำไร่
แบบบ้านไม้นี้ถูกออกแบบมาให้มีความเรียบง่ายบนพื้นที่ใช้สอยที่เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส แต่มีฟังก์ชันของตัวบ้านครับครัน โดยจะแบ่งโซนรับประทานอาหารให้อยู่บนชานบ้าน และมีหลังคามุงกระเบื้องช่วยเสริมในเรื่องกันแดดกันฝนในส่วนนี้ด้วย
มาที่ภายในบ้าน ยังคงเน้นวัสดุที่เป็นไม้ ทั้งพื้น วงกบบานหน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ โดยส่วนแรกภายในบ้านมีการจัดฟังก์ชันของห้องนั่งเล่นให้หันออกไปบริเวณชานบ้านที่อยู่ตำแหน่งของหน้าบ้าน และเน้นบานกระจกขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดออกได้ เพื่อรับลมและชมวิวบรรยากาศสวนสวยรอบบ้าน
ถัดมาด้านในสุดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องครัวที่มีฟังก์ชั่นของห้องรับประทานอาหารด้านในบ้าน ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่เป็นสี่เหลี่ยมพื้นผ้าภายในจึงสามารถจัดห้องครัวตามแนวความกว้างผนังได้ ทำให้ห้องครัวกว้างพอสมควรและใช้งานได้สะดวก
มาที่ส่วนของห้องนอน ภายในตกแต่งเป็นสีขาวไม่เน้นงานไม้ เพื่อให้ห้องไม่ดูแข็งเกินไปและสามารถพักผ่อนได้อย่างสบาย โดยสามารถจัดให้ห้องอยู่ในตำแหน่งที่มีมุมหน้าต่างหันออกไปทางหน้าบ้านก็ดี ทางด้านหลังบ้านก็ได้ ซึ่งวิวภายนอกจะเป็นสวนสวยทั้งหมดสำหรับแบบบ้านไม้ชั้นเดียวสไตล์บ้านในสวน
แบบบ้านไม้ หลังคาทรงจั่ว ดีไซน์ร่วมสมัย
บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักฤดูร้อนในภาคใต้ของประเทศออสเตรีย ออกแบบโดย Judith Benzer Architektur จากเวียนนา เป็นแบบบ้านไม้ที่ดีไซน์ขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในชนบท ดังนั้นจากภาพรูปทรงที่เห็นภายนอกจึงดูคลาสสิค และใช้ไม้ระแนงตกแต่งภายนอกเป็นส่วนใหญ่
จากการตกแต่งที่เรียบง่ายประกอบกับหลังคาทรงจั่วที่สูงพอสมควรจนสามารถดูดซับความร้อนให้เข้ามาถึงตัวบ้านได้ยาก ถือว่าเป็นแบบบ้านไม้ที่เหมาะกับประเทศไทยมาก เนื่องจากต้นทุนในการก่อสร้างที่ไม่แพงมากแล้ว ยังมีรูปแบบที่เข้ากับสภาพแวดล้อมประเทศไทย
บ้านหน้าต่างของตัวบ้านถูกดีไซน์ให้มีฟังก์ชันของการบังแดดเข้าสู่ตัวบ้านด้วยไม้ระแนง รวมไปถึงอีกหนึ่งฟังก์ชันเมื่อเปิดบานหน้าต่างออกก็สามารถกลายเป็นที่บังแดดด้านนอกบ้านได้ตามภาพ ซึ่งนี้คือขอดีขอการปลูกสร้างแบบบ้านที่ใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก
มาที่ภายในแบบบ้านไม้หลังคาทรงจั่ว ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ ประกอบกับหลังคาที่มีระดับความสูงจากพื้นเยอะพอสมควร ด้านในของแบบบ้านไม้นี้จึงดีไซน์ให้เป็นเหมือนห้อง Duplex ของคอนโดมิเนียมที่มีชั้นลอย พื้นที่ใช้สอยแบบบ้านไม้นี้จึงเสมือนเป็นบ้านสองชั้นเลยก็ว่าได้
ภายในห้องนอนยังคนเน้นวัสดุที่เป็นไม้เป็นหลัก ทั้งเตียง วงกบบานหน้าต่าง ผนัง เหมาะกับคนที่ต้องการห้องที่ดู Real ใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยมีการเน้นบานหน้าต่างให้สามารถมองวิวภายนอกได้ด้วย
แบบบ้านไม้ สไตล์ Eco Modern House
แบบบ้านไม้แบบสุดท้ายเป็นบ้านแนวคิดใหม่ หรือ บ้านแบบ Prefab ที่มีรูปทรงเป็นบล็อคเหลี่ยม ๆ สำเร็จรูป แต่ในภาพจะเป็นแบบบ้านที่ใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการประกอบและตกแต่ง ดีไซน์จึงออกมาทันสมัยมีความเป็นโมเดิร์น
นอกจากโครงเหล็กที่มีความแข็งแรงประกอบกับไม้จริงที่ช่วยประหยัดพลังงานในเรื่องของความร้อนแล้ว แบบบ้านไม้ชั้นเดียวนี้ยังออกแบบให้หลังคาสไตล์โมเดิร์นที่ชั้นบนเป็นเสมือนชั้นลอยและปลูกต้นไม้เพื่อช่วยลดความร้อนจากแสงแดด และลดปริมาณน้ำฝนที่ไหลบ่าลงมาสู่ตัวบ้าน ซึ่งสามารถลดทั้งความร้อนได้ และป้องกันน้ำฝนขังบนฝ้าเพดานบ้านได้
เอกลักษณ์ของแบบบ้านสวย ๆ สไตล์นี้ที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดคือหลังคาแบบจั่ว โดยส่วนใหญ่ตามต่างประเทศจะเน้นพื้นที่ใช้สอยให้ใต้ชายหลังคามีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม หากใครที่ชอบดูภาพยนตร์ต่างประเทศแนวครอบครัว ๆ จะเห็นได้ว่าบ้านเกือบทุกหลังจะมีพื้นที่ตรงนี้ขนาดใหญ่พอที่จะสร้างห้องนอนหรือเก็บของได้เลยจากหลังคาทรงจั่วที่มีความสูงพอสมควร
สำหรับประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อนอาจจะต้องใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นได้เพียงห้องเก็บของเท่านั้นเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด และความร้อนสะสมที่หลังคาไม่สามารถใช้พื้นที่ใต้หลังคาเป็นห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นได้แน่ ๆ
แต่หากใครที่มีงบประมาณมากหน่อยก็สามารถเลือกใช้วัสดุของหลังคาแบบที่มีนวัตกรรมสะท้อนความร้อน และติดตั้งชนวนความร้อนเพิ่มก็อาจจะปรับเปลี่ยนพื้นที่ตรงนี้ให้กลายเป็นพื้นที่ใช้สอยที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ นอกจากจะทำแบบบ้านสวย ๆ นี้ให้กลายเป็นบ้านสไตล์ British แล้วก็ยังได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะขึ้นไปในตัวด้วย
ตกแต่งภายนอกด้วยวัสดุจากธรรมชาติ
หากใครที่เคยเข้าชมโครงการบ้านจัดสรรที่มีการตกแต่งแบบบ้านสวย ๆ ด้วยการใช้วัสดุจากธรรมชาติ อาทิ หินธรรมชาติ หินแกรนิต ไม้ หรือโชว์ Texture ของพื้นผิวตัวบ้าน เช่น อิฐมวลแดง และเน้นการใช้สีที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
โดยส่วนใหญ่การตกแต่งแบบนี้จะออกมาในแบบบ้านสวย ๆ รูปแบบ British ซึ่งการตกแต่งแบบนี้ได้ไอเดียมาจากวิหารหรือปราสาทสมัยก่อนในประเทศอังกฤษนั่นเอง และวัสดุเหล่านี้ถือเป็นวัสดุที่ทนทานต่ออากาศได้ดี และไม่เก็บความร้อน สังเกตง่าย ๆ จากโบสถ์ต่าง ๆ ในวัดของประเทศไทย เมื่อเข้าไปด้านในจะรู้สึกร่มเย็นอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากโบสถ์ส่วนใหญ่เลือกใช้หินธรรมชาติในการก่อสร้าง ประกอบกับความสูงโปร่งภายใน
การเลือกใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติมาประดับตกแต่งให้บ้านกลายเป็นแบบบ้านสวย ๆ สไตล์ British แล้ว นอกจากนั้นยังช่วยคลายความร้อนได้ด้วย ซึ่งเหมาะกับประเทศไทยที่ร้อนจัดมาก ๆ
บานหน้าต่างแบบ Bay Window
นอกจากหลังคาแบบจั่ว และวัสดุตกต่างผนังภายนอกที่เป็นธรรมชาติแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยที่จะทำให้แบบบ้านสวย ๆ นี้เป็นบ้านสไตล์ British อย่างแท้จริงก็คือ บานหน้าหน้าที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน หรือ Layout ของพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านที่ยื่นออกมา
โดยส่วนใหญ่บ้านสไตล์นี้จะเน้นบานหน้าต่างที่กว้างสามารถเปิดบานออกได้ทั้งสองบาน ไม่นิยมหน้าต่างที่มีบานแบบเลื่อนเพราะไม่เข้ากับดีไซน์ต่าง ๆ ของตัวบ้าน ซึ่งแบบบ้านสวย ๆ ทั่วไปของอังกฤษหากไม่เน้นความเป็นโมเดิร์นด้วยการติดบานกระจกแบบ Full Height ก็จะนิยมสร้าง Layout ของห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน Master Bedroom ให้มีพื้นที่ใช้สอยยื่นออกมาและติดตั้งบานหน้าต่างแบบ Bay Window เข้าไป
นอกจากจะทำให้แบบบ้านสวย ๆ นี้ กลายเป็นบ้านสไตล์ British แล้ว ผู้อยู่อาศัยยังสามารถชมวิวจากด้านในบ้านมาด้านนอกบ้านได้แบบ 180 องศาด้วย
ห้องใต้ดิน และโรงรถ
อย่างที่บอกช่วงข้างต้นว่าแบบบ้านสวย ๆ สไตล์ British นี้ มักเน้นการก่อสร้างให้มีชั้นใต้ดิน แต่แน่นอนการสร้างบ้านแบบนี้ไม่เหมาะกับประเทศไทยที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเกิดอุทกภัยเมื่อไหร่ แต่สำหรับใครที่มีที่ดินที่ครอบครองอยู่บนไหล่เขาเหนือระดับที่น้ำที่จะขึ้นไปได้ก็สามารถใช้แบบบ้านสวย ๆ สไตล์นี้ไปใช้ปลูกบ้านจริงได้ไม่ต้องห่วง